เนื่องจากการออกกำลังกายแบบนี้จะช่วยเพิ่มการเผาผลาญพลังงานของร่างกายในแต่ละวัน ช่วยเพิ่มปริมาณกล้ามเนื้อในร่างกาย ช่วยให้หัวใจและหลอดเลือดแข็งแรงและช่วยลดไขมันที่สะสมตามตัว การบริหารร่างกายถือว่าเป็นส่วนสำคัญเช่นกัน
ยืดเหยียดกล้ามเนื้อ
ช่วยป้องกันการบาดเจ็บของกล้ามเนื้อและข้อต่อ เพิ่มความยืดหยุ่นและการทรงตัว รวมทั้งเป็นการอบอุ่นร่างกายมีหลากหลายท่าทาง และแต่ละท่าทางให้ทำทั้งด้านซ้ายและขวา โดยให้ทำค้างไว้แล้วนับ 1-10 จากนั้นให้เปลี่ยนท่าใช้เวลากับท่านี้ซัก 10 นาที
ท่าหมุนหัวไหล่ใช้มือแตะหัวไหล่แล้วหมุน
ท่ายืดกล้ามเนื้อหน้าแขน ยื่นแขนออกแล้วแบมือลงจากนั้นใช้มืออีกข้างหนึ่งดัดนิ้วมือทั้ง 5 ค้างไว้
ท่ายืดกล้ามเนื้อหลังแขน ยกมือซ้ายไขว้หลังแล้วใช้มือขวายืดศอกซ้ายข้างไว้ทำสลับข้างกัน
ท่ายืดกล้าเนื้อไหล่ ใช้บริเวณข้อพับของแขนข้างซ้ายหนีบศอกขวาเหยียดแขนตรงไปทางซ้ายแล้วยืดเส้นค้างไว้
ท่ายืดกล้ามเนื้อหน้าอก แอ่นหน้าอกไปด้านหน้าแล้วประสานมือยื่นออกไปด้านหลัง
ท่ายืดกล้ามเนื้อหลัง ก้มหลังลงนิ้วแตะพื้น
ท่ายืดกล้ามเนื้อท้อง เงยหน้าขึ้นยืดกล้ามท้อง
ท่ายืดกล้ามเนื้อขา ก้าวขาออกมาด้านหน้าแล้วตรึงไว้ทีละข้างย่อขาหลังลง
ท่ายืดกล้ามเนื้อหน้าขาใช้ปลายมือจับปลายเท้ายึดไว้จากด้านหลัง
ท่ายืดกล้ามเนื้อน่อง ก้าวขาใดขาหนึ่งออกมาแล้วย่อขาที่ก้าวออกมาด้านหน้าจากนั้น ใช้มือข้างใดข้างหนึ่งกดบนหัวเข่าไว้เพื่อยืดกล้ามเนื้อน่อง
ออกกำลังกายเพื่อเพิ่มความแข็งแรงและเสริมสร้างกล้ามเนื้อจะทำให้มีการเผาผลาญเพิ่มขึ้ช่วยให้ลดน้ำหนักและควบคุมเบาหวานได้ง่ายขึ้น มี 7 ท่า
ท่ากล้ามเนื้อแขนด้านหน้า ยกน้ำหนักขึ้นลงในท่ายืน
ท่ากล้ามเนื้อแขนด้านล่าง ยกน้ำหนักขึ้นพับแขนไปด้านหลัง
ท่ากล้ามเนื้อหัวไหล่ ยกที่ยกน้ำหนักไว้ที่ลำตัวอาจจะที่ยกน้ำหนัก มีปริมาณน้ำหนักที่ไม่หนักมากยกซัก 2 อัน สำหรับด้านซ้ายและขวา ยกไว้แล้วยืนตรงแนบลำตัวจากนั้นกางออก ทำซ้ำๆ
ท่ากล้ามเนื้ออก ยกดรัมเบลขึ้น ให้ดรัมเบลอยู่ในระดับหู ตั้งฉากมือทั้งสองข้าง แล้วแยกออกหุบแขนเข้าออก
ท่ากล้ามเนื้อท้อง ใช้ท่า ซิทอัพ
ท่ากล้ามเนื้อหลัง นอนตั้งขาขึ้นเหมือนการซิทอัพแล้วยกสะโพกขึ้นลง
ท่ากล้ามเนื้อต้นขาด้านหน้า นั่งบนเก้าอี้และยกขาขึ้นเหยียดตรงออกไปด้านหน้า พร้อมทำสลับซ้ายขาว